วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทความแนะนำตัวเอง

ชื่อ:  นางสาวสุกัญญา   พรมทา
ชื่อเล่น:  แวว
อายุ:  22
เกิดวันที่:  19  เดือนพฤษภาคม  พ.ศ  2533
ภูมิลำเนา:  101  หมู่ 10 ตำบลหนองเทพ อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ 32130
ตอนนี้กำลังศึกษา:  ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
คณะ:  วิทยาลัยการฝึกหัดครู
สาขา:  คณิตศาสตร์  
ชั้น: ปีที่  4
อาหารที่ชอบ: ส้มตำปูปล้าร้า
เพลงที่ชอบ: เพลงการเดินทางที่แสนพิเศษ
งานอดิเรก:  อ่านหนังสือนิยาย, ฟังเพลง,ออกกำลังกาย
คติประจำใจ:  ฝันให้ไกล   ไปให้ถึง


วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555


ข่าวสารเทคโนโลยี

นวัตกรรม พัดลมไอน้ำ - ฉลาดคิด
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม 2555 เวลา 00:05




          ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คนไทยในเกือบทุกภูมิภาคต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน และสภาพอากาศที่แปรปรวน ยังไม่รวมอีกหลายประเทศที่ต้องพบเผชิญกับอากาศร้อนจัด และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้คนนับร้อย

              กลับกันในประเทศไทยสภาวการณ์ดังกล่าว กำลังสร้างช่องทางธุรกิจใหม่สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ทำความเย็นนอกอาคารและผู้ผลิตพัดลมไอน้ำของประเทศไทย ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเทคโนโลยีในด้านนี้  เมื่อพัดลมไอน้ำสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด และกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานกลางแจ้ง ทดแทนเครื่องปรับอากาศ และเป็นได้มากกว่าสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างที่หลายคนเคยมอง  


                          นพชัย วีระมานกรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล  ผู้ผลิตพัดลมไอน้ำฝีมือคนไทย บอกว่า สนใจในเทคโนโลยีพัดลมไอน้ำตั้งแต่ยุคบุกเบิก เนื่องจากเห็นว่ามีช่องทางการตลาดที่มีศักยภาพในหลาย ๆ ประเทศแต่เนื่องจากพัดลมไอน้ำมีต้นแบบมาจากต่างประเทศ  ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตยังคงถูกปิดเป็นความลับทางการค้า ดังนั้นการจะพัฒนาสินค้าเป็นของตัวเองจึงต้องเริ่มต้นจากศูนย์ นพชัย บอกว่า ใช้เวลากว่า 1 ปีในการศึกษาข้อมูล และพัฒนาเทคโนโลยีพัดลมไอน้ำเป็นของตัวเอง จนกระทั่งพบว่าการจะทำให้พัดลมไอน้ำสามารถพ่นละอองฝอยขนาดเล็ก ให้ประสิทธิภาพสูงในการทำความเย็นนั้น ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพอสมควรด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ สวทช. ผ่านโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย หรือไอแทป ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีให้แก่บริษัท จนสามารถผลิตพัดลมไอน้ำที่เป็นละอองฝอย ทดแทนพัดลมไอน้ำแบบเดิมที่เป็นหยดน้ำขนาดใหญ่ทำให้ผู้ใช้เปียก จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบตัวแรกออกจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันบริษัท สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายจากการต่อยอดเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาเทคนิคสร้างละอองหมอกเพื่อลดอุณหภูมิ   เทคโนโลยีใหม่สำหรับพัดลมไอน้ำระบบเซนทริฟูกัลฟอร์ซ พัฒนาระบบอินเวอร์เตอร์สำหรับควบคุมปั๊มน้ำของพัดลมให้มีต้นทุนต่ำ บำรุงรักษาง่าย ตลอดจนนวัตกรรมพัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น พัดลมระบายอากาศ  ระบบสร้างบรรยากาศสั่งทำตามต้องการและ ระบบประหยัดการใช้พลังงาน หรือโอ-คูลด้าน ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ  สวทช. กล่าวว่า  สวทช. มีบทบาทสำคัญในการกำหนดเป้าหมายและมุ่งมั่นพัฒนางานวิจัยให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ที่ผ่านมา ได้รวบรวมองค์ความรู้และงานวิจัยที่ได้ริเริ่มดำเนินการไว้ และทำงานที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานหลักในภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ สำหรับโครงการที่ สวทช. ได้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีกับ บริษัท มาสเตอร์คูลฯ นั้นเป็นการสนับสนุนเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มพัดลมไอน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งในประเทศไทย  อีกทั้งกินไฟต่ำ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค            ความร่วมมือดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 โดย สวทช. ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมพัฒนาและออกแบบระบบสร้างละอองน้ำแบบจานหมุนความเร็วสูงที่อาศัยแรงเหวี่ยงจากจุดศูนย์กลาง  สำหรับพัดลมไอน้ำระบบเซนทริฟูกัล ฟอร์ซ  ซึ่งนำมาสู่การสร้างพัดลมละอองน้ำจำหน่ายในปี พ.ศ. 2551  ความสำเร็จนี้นำมาสู่การโครงการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาอินเวอร์เตอร์สำหรับพัดลมไอหมอกและพัดลมอัดหมอก ซึ่งจะทำให้ได้พัดลมไอน้ำที่มีคุณภาพละอองน้ำดีขึ้น  สามารถควบคุมความเร็วการหมุนของมอเตอร์ได้ ช่วยลดการนำเข้าปั๊มน้ำ อีกทั้งได้ปั๊มน้ำแรงดันสูงที่มีอายุการใช้งานยาวนาน ประหยัดพลังงาน หรือค่าไฟฟ้า ได้มากกว่า 30%   ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวต่อว่า ด้วยสภาพของความเป็นเมืองร้อน จึงทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งที่แบรนด์เครื่องปรับอากาศเข้ามาทำตลาด อีกทั้งยังเป็นฐานการผลิตใหญ่ของหลายต่อหลายแบรนด์ และกลายเป็นแหล่งผลิตของ นวัตกรรมทางด้านความเย็น ทางเลือกใหม่อีกหลายชนิดโดยนอกเหนือจากเครื่องปรับอากาศทั้งภายในภายนอกแล้ว ปัจจุบันยังมีหลากหลายแบรนด์พัดลมไอน้ำ โดยเฉพาะแบรนด์ที่เกิดจากฝีมือคนไทย ที่เริ่มมีการปรับตัวและเข้าสู่ตลาดนี้อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่ง มาสเตอร์คูล ถือเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำที่ประสบความสำเร็จจากการผลิตสินค้าที่พัฒนาเทคโนโลยีตอบโจทย์ผู้ใช้เป็นอย่างดี หากผู้ประกอบการรายใดสนใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไปสร้างมูลค่าเพิ่มทางการผลิตและบริการ   สามารถติดต่อได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ของ สวทช. โทร. 0-2564-8000.

อ้างอิงข้อมูลจาก   http://www.mict.go.th/more_news.php?cid=10



บทความเกี่ยวกับ Web 2.0

Multiply คืออะไร

multiply









             Multiply คือเว็บไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกับการแบ่งปัน media ประเภทรูปภาพ และวีดีโอ ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากสำหรับคนรักการถ่ายภาพ ซึ่งในปัจจุบันกล้องถ่ายรูปประเภท DSLR มีราคาที่สามารถซื้อหามาใช้ได้ง่ายขึ้น ทำให้ตลาดกล้อง DSLR มีการขยายตัวมากขึ้น และด้วยความสามารถของกล้องประเภทถอดเปลี่ยนเลนส์ได้นี้ ทำให้ผู้ถ่ายภาพสามารถสร้างสรรค์ผลงานให้มีความสวยงามได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกฝน และเรียนรู้การถ่ายภาพตามสื่อต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันเว็บไซต์ที่สอนถ่ายรูปด้วยกล้อง DSLR นั้นมีอยู่มากมาย

            Multiply ช่วยให้คุณแบ่งปันรูปภาพให้กับคนในครอบครับ เพื่อนฝูงได้ชื่นชมกับผลงานที่ถ่ายด้วยตัวคุณเอง ด้วยคุณลักษณะอันโดดเด่นทำให้การแสดงผลงานของคุณนั้นดูสวยงามและแปลกตามากยิ่งขึ้น หากคุณต้องการเป็นเจ้าของ multiply นั้นทำได้ไม่ยากเพียงแค่สมัครใช้บริการก็สามารถมี multiply เป็นของตนเองได้เช่นhttp://ninetechnophoto.multiply.com นั่นหมายความว่าคุณจะได้ชื่อที่คุณต้องการจากตัวอย่างที่ผมสมัครคือ ninetechnophoto และตามด้วย .multiply.com
           Multiplyมีลักษณะการทำงานที่เป็นเว็บไซต์ โดยคุณสามารถบริหารจัดการเว็บไซต์ของคุณได้เองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้การบริหารจัดการนั้นคุณจะต้องกรอก user name และ password ที่ได้จากการสมัครในครั้งแรก เพื่อเข้าสู่ระบบ Back end ของเว็บไซต์ สำหรับการบริหารจัดการนั้นคุณสามารถปรับแต่งได้ในหลายๆ ส่วนไม่ว่าจะเป็น Template ไม่ว่าจะเป็นการวางรูปแบบต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายพอสมควร

อ้างอิงข้อมูลจาก      http://www.ninetechno.com/a/multiply/338-multiply-     คืออะไร.htm

วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

แนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนรู้


ชื่อนวัตกรรม:  กิจกรรมการเรียนการสินวิชารูปเรขาคณิตโดยใช้โปรแกรม   GSP
ใช้สอนเรื่อง: ใช้สอนเราองรูปเรขาคณิต
เหมาะสมสำหรับนักเรียน:  ชั้นประถมศึกษาปีที่   2
แนวคิดที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนรู้  คือ
ในปัจจุบันนี้คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งต่อการพัฒนาความคิดของมนุษย์ และมนุษย์ได้ใช้คณิตศาสตร์เป็นเครื่องมือในการศึกษาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่นๆ คณิตศาสตร์
ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
 คิดอย่างมีเหตุผล คิดอย่างมีระบบและระเบียบแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์ได้อย่างละเอียดรอบคอบ ถี่ถ้วน สามารถคาดการณ์  วางแผน  ตัดสินใจและแก้ปัญหาได้  อีกทั้งคณิตศาสตร์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ศึกษาเกี่ยวกับแบบรูปและความสัมพันธ์เพื่อให้ได้ข้อสรุปและการนำไปใช้ประโยชน์ เนื้อหาสาระทางคณิตศาสตร์มีลักษณะเป็นภาษาสากลที่สามารถใช้เพื่อการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการถ่ายทอดความรู้ระหว่างศาสตร์ต่างๆ ได้ ดังนั้นในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องยึดหลักที่ว่านักเรียนมีความสามารถสามารถเรียนรู้ละพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุดจึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนเพราะเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทที่สำคัญมากในด้านการศึกษานักเรียนจึงจำเป็นจะต้องได้รับการเรียนรู้ที่หลากหลายมีความทันสมัย เพื่อที่จะได้ทันเหตุการณ์ การเรียนการสอนทุกวันนี้นักเรียนเรียนเยอะมากขึ้นก็เป็นปัญหาที่ว่าครูจะต้องทำยังไงให้การเรียนการสอนในห้องที่มีนักเรียนเยอะแต่นักเรียนสามารถได้รับการเรียนรู้ได้ทั่วถึงจึงจำเป็นที่จะต้องนำเทคโนยีเข้ามาช่วยในการจัดการเรียนการสอนเพื่อให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนมีประสทธิภาพมากขึ้น

วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

รูปแบบของสื่อหลายมิติในการเรียนการสอน

รูปแบบของสื่อหลายมิติในการเรียนการสอน
             http://sirinapa005.blogspot.com/2010/08/blog-post.html   กล่าวไว้ว่า สื่อหลายมิติ เป็นการขยายแนวความคิดของข้อความหลายมิติในเรื่องของการเสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรงและเพิ่มความสามารถในการบรรจุข้อมูลในลักษณะของภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิทัศน์ ภาพกราฟิคในลักษณะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย เสียงพูด เสียงดนตรี เข้าไว้ในเนื้อหาด้วย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาเรื่องราวได้หลายรูปแบบมากกว่าเดิม
         http://www.learners.in.th/blog/tasana/259712 
กล่าวไว้ว่า สื่อหลายมิติ เป็นการขยายแนวความคิดของข้อความหลายมิติ ในเรื่องของการเสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรง และเพิ่มความสามารถในการบรรจุข้อมูลในลักษณะของภาพเคลื่อนไหวแบบวีดิทัศน์ ภาพกราฟิคในลักษณะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่าย เสียงพูด เสียงดนตรี เข้าไว้ในเนื้อหาด้วย เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาเรื่องราวในลักษณะ ต่าง ได้หลายรูปแบบกว่าเดิม
         ภิดานันท์ มลิทอง (2540:269) กล่าวไว้ว่า สื่อหลายมิติในการเรียนการสอนเป็นเทคนิคขยายความคิดของข้อความหลายมิติใน เรื่องของการเสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรงและมีเพิ่มความสามารถในการบรรจุข้อมูลในลักษณะของภาพเคลื่อนไหวแบบวีดีทัศน์ ภาพกราฟฟิกที่เป็นภาพนิ่งและเป็นภาพเคลื่อนไหวภาพสามมิติ ภาพถ่ายเสียงพูด เสียงดนตรีเข้าไว้ในเนื้อหาเรื่องราวในลักษณะต่างๆได้หลายรูปแบบมากขึ้นกว่าเดิม
        สรุป
        สื่อหลายมิติในการเรียนการสอนเป็นเทคนิคขยายความคิดของข้อความหลายมิติใน เรื่องของการเสนอข้อมูลในลักษณะไม่เป็นเส้นตรงและมีเพิ่มความสามารถในการบรรจุข้อมูลในลักษณะของภาพเคลื่อนไหวแบบวีดีทัศน์ ภาพกราฟฟิกที่เป็นภาพนิ่งและเป็นภาพเคลื่อนไหวภาพสามมิติ
          เอกสารอ้างอิง
URL:http://sirinapa005.blogspot.com/2010/08/blog-post.html  เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม  2554
URL:http://www.learners.in.th/blog/tasana/259712  เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม  2554
ภิดานันท์ มลิทอง. สื่อหลายมิติในการจัดการเรียนการสอน กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2540. 269หน้า.