ข่าวสารเทคโนโลยี
นวัตกรรม พัดลมไอน้ำ - ฉลาดคิด
วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม
2555 เวลา 00:05 น
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา คนไทยในเกือบทุกภูมิภาคต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน และสภาพอากาศที่แปรปรวน ยังไม่รวมอีกหลายประเทศที่ต้องพบเผชิญกับอากาศร้อนจัด และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของผู้คนนับร้อย
กลับกันในประเทศไทยสภาวการณ์ดังกล่าว กำลังสร้างช่องทางธุรกิจใหม่สำหรับผู้ผลิตอุปกรณ์ทำความเย็นนอกอาคารและผู้ผลิตพัดลมไอน้ำของประเทศไทย ให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำเทคโนโลยีในด้านนี้ เมื่อพัดลมไอน้ำสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างไร้ขีดจำกัด และกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานกลางแจ้ง ทดแทนเครื่องปรับอากาศ และเป็นได้มากกว่าสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยอย่างที่หลายคนเคยมอง
“นพชัย
วีระมาน” กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสเตอร์คูล
อินเตอร์เนชั่นแนล
ผู้ผลิตพัดลมไอน้ำฝีมือคนไทย บอกว่า
สนใจในเทคโนโลยีพัดลมไอน้ำตั้งแต่ยุคบุกเบิก
เนื่องจากเห็นว่ามีช่องทางการตลาดที่มีศักยภาพในหลาย ๆ
ประเทศแต่เนื่องจากพัดลมไอน้ำมีต้นแบบมาจากต่างประเทศ
ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตยังคงถูกปิดเป็นความลับทางการค้า
ดังนั้นการจะพัฒนาสินค้าเป็นของตัวเองจึงต้องเริ่มต้นจากศูนย์ นพชัย บอกว่า
ใช้เวลากว่า 1 ปีในการศึกษาข้อมูล และพัฒนาเทคโนโลยีพัดลมไอน้ำเป็นของตัวเอง
จนกระทั่งพบว่าการจะทำให้พัดลมไอน้ำสามารถพ่นละอองฝอยขนาดเล็ก
ให้ประสิทธิภาพสูงในการทำความเย็นนั้น
ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีพอสมควรด้วยเหตุผลดังกล่าว
จึงขอเข้ารับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี หรือ
สวทช. ผ่านโครงการสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย หรือไอแทป
ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีให้แก่บริษัท
จนสามารถผลิตพัดลมไอน้ำที่เป็นละอองฝอย
ทดแทนพัดลมไอน้ำแบบเดิมที่เป็นหยดน้ำขนาดใหญ่ทำให้ผู้ใช้เปียก
จนกระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ต้นแบบตัวแรกออกจำหน่ายในท้องตลาดปัจจุบันบริษัท
สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายจากการต่อยอดเทคโนโลยี เช่น
การพัฒนาเทคนิคสร้างละอองหมอกเพื่อลดอุณหภูมิ
เทคโนโลยีใหม่สำหรับพัดลมไอน้ำระบบเซนทริฟูกัลฟอร์ซ พัฒนาระบบอินเวอร์เตอร์สำหรับควบคุมปั๊มน้ำของพัดลมให้มีต้นทุนต่ำ
บำรุงรักษาง่าย ตลอดจนนวัตกรรมพัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น พัดลมระบายอากาศ ระบบสร้างบรรยากาศสั่งทำตามต้องการและ
ระบบประหยัดการใช้พลังงาน หรือโอ-คูลด้าน ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล
ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช.
มีบทบาทสำคัญในการกำหนดเป้าหมายและมุ่งมั่นพัฒนางานวิจัยให้เกิดการนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม
ที่ผ่านมา ได้รวบรวมองค์ความรู้และงานวิจัยที่ได้ริเริ่มดำเนินการไว้
และทำงานที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานหลักในภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับโครงการที่ สวทช. ได้ร่วมพัฒนาเทคโนโลยีกับ บริษัท มาสเตอร์คูลฯ
นั้นเป็นการสนับสนุนเทคโนโลยี
เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มพัดลมไอน้ำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งในประเทศไทย
อีกทั้งกินไฟต่ำ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ความร่วมมือดังกล่าว เริ่มตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2549 โดย สวทช.
ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมพัฒนาและออกแบบระบบสร้างละอองน้ำแบบจานหมุนความเร็วสูงที่อาศัยแรงเหวี่ยงจากจุดศูนย์กลาง สำหรับพัดลมไอน้ำระบบเซนทริฟูกัล ฟอร์ซ ซึ่งนำมาสู่การสร้างพัดลมละอองน้ำจำหน่ายในปี
พ.ศ. 2551
ความสำเร็จนี้นำมาสู่การโครงการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาอินเวอร์เตอร์สำหรับพัดลมไอหมอกและพัดลมอัดหมอก
ซึ่งจะทำให้ได้พัดลมไอน้ำที่มีคุณภาพละอองน้ำดีขึ้น สามารถควบคุมความเร็วการหมุนของมอเตอร์ได้
ช่วยลดการนำเข้าปั๊มน้ำ อีกทั้งได้ปั๊มน้ำแรงดันสูงที่มีอายุการใช้งานยาวนาน
ประหยัดพลังงาน หรือค่าไฟฟ้า ได้มากกว่า 30%
ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวต่อว่า ด้วยสภาพของความเป็นเมืองร้อน
จึงทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งที่แบรนด์เครื่องปรับอากาศเข้ามาทำตลาด
อีกทั้งยังเป็นฐานการผลิตใหญ่ของหลายต่อหลายแบรนด์ และกลายเป็นแหล่งผลิตของ
นวัตกรรมทางด้านความเย็น ทางเลือกใหม่อีกหลายชนิดโดยนอกเหนือจากเครื่องปรับอากาศทั้งภายในภายนอกแล้ว
ปัจจุบันยังมีหลากหลายแบรนด์พัดลมไอน้ำ โดยเฉพาะแบรนด์ที่เกิดจากฝีมือคนไทย
ที่เริ่มมีการปรับตัวและเข้าสู่ตลาดนี้อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่ง มาสเตอร์คูล
ถือเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ชั้นนำที่ประสบความสำเร็จจากการผลิตสินค้าที่พัฒนาเทคโนโลยีตอบโจทย์ผู้ใช้เป็นอย่างดี
หากผู้ประกอบการรายใดสนใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ
หรือการนำความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีไปสร้างมูลค่าเพิ่มทางการผลิตและบริการ สามารถติดต่อได้ที่ คอลเซ็นเตอร์ของ สวทช. โทร.
0-2564-8000.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น